Home ข่าว ศอ.บต. จากสงครามกระท่อม สู่สมรภูมิปัญญา 25 สถาบันการศึกษา ลุกขึ้นยืนในแนวหน้า จากนโยบาย “120 วัน วาระพืชกระท่อม” 

จากสงครามกระท่อม สู่สมรภูมิปัญญา 25 สถาบันการศึกษา ลุกขึ้นยืนในแนวหน้า จากนโยบาย “120 วัน วาระพืชกระท่อม” 

การขับเคลื่อนนโยบาย “120 วัน วาระพืชกระท่อม” ที่เริ่มต้นโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ร่วมกับ 25 สถาบันการศึกษา เข้ามาเป็นกลไกหลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยมี นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. เป็นผู้ขับเคลื่อนที่ยืนยันว่า นี่คือแนวทางที่มองว่า “เยาวชนคือคำตอบ” ในการสร้างภูมิคุ้มกันสังคมในระยะยาว

การที่ ศอ.บต. เลือกใช้สถาบันการศึกษาเป็นเครื่องมือหลักในการทำงาน สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากการปราบปรามมาสู่การทำงานทางสังคมอย่างแท้จริง โดยมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนให้สถาบันเหล่านี้ได้จัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งสามารถสรุปเป็น 4 มิติสำคัญของการทำงานเชิงรุกทั้ง การสร้างการรับรู้ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แทนที่จะใช้รูปแบบการบรรยายที่จำกัด ศอ.บต. ได้สนับสนุนให้แต่ละสถาบันจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ มีการจัดอบรมให้ความรู้และพัฒนาทักษะการปฏิเสธที่ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี และ โรงเรียนอาซีซสถาน เกิดกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น การประกวดวาดภาพ ประกวดคลิปสั้นผ่าน TikTok (ที่ โรงเรียนนราสิกขาลัย และ โรงเรียนสุไหงปาดี) รวมถึงการจัด “Cover Dance” และลานดนตรีต้านภัยกระท่อม (ที่ โรงเรียนเบตงวีระราษฎร์ และ โรงเรียนสะบ้าย้อยวิทยา) ใช้กีฬาเป็นเครื่องมือในการดึงเยาวชนออกจากยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม เช่น กีฬาสี “Sport Against Drugs” (ที่ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี) ฟุตบอล “ต้านใบกระท่อมพัฒนาชีวิต” (ที่ โรงเรียนสุไหงปาดี) และบาสเกตบอล “ต่อต้านยาเสพติด” (ที่ โรงเรียนนราสิกขาลัย)

การพัฒนาภาวะผู้นำในกลุ่มเยาวชน กิจกรรมหลายส่วนมุ่งเน้นการยกระดับเยาวชนให้เป็น “แกนนำ” ในการรณรงค์ ไม่ใช่แค่ผู้รับสาร โดยมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการที่ โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล เพื่อสร้างเครือข่ายและพัฒนาความเป็นผู้นำในการรณรงค์ป้องกันยาเสพติด ซึ่งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันจากภายในที่แข็งแกร่งที่สุด การเชื่อมโยงกับประสบการณ์จริง โครงการที่น่าสนใจคือการเปิดโอกาสให้นักเรียนจาก โรงเรียนอาซีซสถาน ได้เยี่ยมชม โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี ซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงที่ทำให้เยาวชนได้เห็นภาพและผลกระทบที่แท้จริงจากการใช้ยาเสพติด สร้างความตระหนักรู้ที่ลึกซึ้งกว่าการรับฟังเพียงทฤษฎี นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการกับหลักศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น นโยบายนี้ยังใช้มิติทางศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เข้มแข็งในพื้นที่เป็นเครื่องมือสำคัญ เช่น ละครเวที “ศรัทธานำทาง เยาวชนไทยมุสลิมห่างไกลสิ่งเสพติด” ของ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ซึ่งเป็นแนวทางที่เข้าถึงและกระตุ้นจิตสำนึกของเยาวชนในพื้นที่ได้อย่างตรงจุด

การขับเคลื่อนของ ศอ.บต. ผ่านสถาบันการศึกษาทั้ง 25 แห่งในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนใต้ได้เปลี่ยนจาก “สงครามยาเสพติด” ที่ใช้การปราบปรามเป็นหลัก ไปสู่ “สงครามทางสังคม” ที่ใช้การปลุกพลังจากประชาชนและเยาวชนเป็นแนวร่วมสำคัญ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง

ตอริก สหสันติวรกุล  รายงาน

Exit mobile version