ตำรวจภูธรภาค 9 ชี้แจง กรณี อดีตผกก.สภ.โคกเคียน แจ้งความผู้บังคับบัญชา ยืนยันทุกการดำเนินการเป็นไปตามหน้าที่และกฎหมาย

วันนี้ ที่ห้องประชุม War Room ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า จังหวัดยะลา พลตำรวจตรีอาชาน จันทร์ศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และรอง ผบ.ศปก.ตร.สน.แถลงชี้แจงกรณีที่ พันตำรวจเอกวีรยุทธ ตาสีพันธุ์ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน จังหวัดนราธิวาสได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสในข้อหา “ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน”

สืบเนื่องจากเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา บริเวณหลัง สภ.โคกเคียน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินราชการกว่า 5 ล้านบาท ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสจึงมีคำสั่งให้ พันตำรวจเอกวีรยุทธ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัด

ต่อมา พันตำรวจเอกวีรยุทธ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมแจ้งความเอาผิดผู้บังคับบัญชา แต่ทางตำรวจภูธรภาค 9 ยืนยันว่า การสั่งการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ซึ่งยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่อง และหัวหน้าหน่วยจำเป็นต้องประจำการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

ขณะที่กรณีตรวจสอบบ้านพักเจ้าหน้าที่นั้น พลตำรวจตรีอาชาน ย้ำว่า เป็นการตรวจสอบจากภายนอกเท่านั้นไม่ได้บุกรุก หรือเข้าไปภายในบ้านพักแต่อย่างใด เป็นการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่และระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งนี้ทางตำรวจภูธรภาค 9 ยังได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งในส่วนเหตุระเบิดและการให้สัมภาษณ์ของ พันตำรวจเอกวีรยุทธ ซึ่งหากพบว่าเข้าข่ายผิดวินัยหรือกฎหมาย อาจมีการดำเนินการทั้งทางวินัย แพ่ง และอาญา

ขอยืนยันทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างโปร่งใส และเปิดโอกาสให้ พันตำรวจเอกวีรยุทธ ใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้ตามกฎหมาย ขณะที่นโยบายการบริหารราชการของ ผบช.ภ.9 เน้นย้ำในเรื่องของ ภาวะผู้นำหน่วย ภายใต้หลักคิด หน่วยเข้มแข็ง หน่วยมีความพร้อมในการบริการประชาชน โดยหัวหน้าหน่วยต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมและป้องกันหน่วยได้ รวมถึงต้องมีความยึดโยงหน่วยและอยู่ประจำที่ตั้ง เพื่อ กำกับดูแลควบคุมพื้นที่ พลตำรวจตรีอาชาน กล่าวทิ้งท้าย
ภาพ:ข่าว คทาวุธ แช่ม
