“ทวี สอดส่อง” รมต.ยุติธรรม บินลงใต้ด่วน !! นำเเผนปรับงานเเละจัดเตรียมแผนปฏิบัติการ “รวมพลังจิตอาสา เอาชนะยาเสพติด” ให้แผนบูรณาการชายแดนใต้ เล็งเป้าพร้อมเข้าจัดระเบียบการร้านค้ารายใหญ่เเละเเหล่งจำหน่ายพืชกระท่อมเป็นเรื่องเร่งด่วน … (มีคลิป)

“ทวี สอดส่อง” รมต.ยุติธรรม บินลงใต้ด่วน !! นำเเผนปรับงานเเละจัดเตรียมแผนปฏิบัติการ “รวมพลังจิตอาสา เอาชนะยาเสพติด” ให้แผนบูรณาการชายแดนใต้ เล็งเป้าพร้อมเข้าจัดระเบียบการร้านค้ารายใหญ่เเละเเหล่งจำหน่ายพืชกระท่อมเป็นเรื่องเร่งด่วน … (มีคลิป)

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดการประชุมแถลงแผนปฏิบัติการ “รวมพลังจิตอาสา เอาชนะยาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้”ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการระดับสูงทั้ง 5 จังหวัด โดยมี พลเอก วิชาญ สุขสง ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาคประชาชน กระทรวงยุติธรรม, พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลตรี ชาคริต อุจะรัตน รองแม่ทัพภาคที่ 4 , พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, พลตรี เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, นางพาตีเมาะ สดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, ดร.แวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี, ตลอดจนรองผู้ว่าจังหวัดนราธิวาส, ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส และสงขลา), บุคลากรจากกระทรวงสาธารณะสุข, ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น, ผู้นำศาสนา, หัวหน้าส่วนราชการ และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ทั้งหน่วยงานรัฐ ผู้นำท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม กว่า 100 คน

ในการประชุมครั้งนี้ ผู้ว่าราชการ ทั้ง 3 จังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้นำชุมชน และตัวแทนจากองค์กรภาคประชาสังคม ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงและขยายผลการดำเนินงานในพื้นที่ให้ครอบคลุม ทั้งแผนการป้องกันปราบปราม วางแผนการจับกุม ควบคุม ใช้พรบ.ตามกฎหมาย การจัดให้ความรู้กับเด็กๆและเยาวชน ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาต้นๆที่ประชาชนต้องการแก้ปัญหา จากข้อมูลที่ได้รับร้องเรียนใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ มีมากกว่า 490 หมู่บ้านที่รายงานตรงกันว่า “น้ำพืชกระท่อม” คือปัญหาที่กระทบวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ แม้กระท่อมจะกลายเป็นพืชเสรีทางกฎหมาย แต่ น้ำกระท่อม ที่ต้มขายหรือแอบปรุงดื่ม กลับกลายเป็นสารเสพติดกลาย ๆ ที่กลายเป็นปัญหาสุขภาพจิตและชีวิตครอบครัวของชุมชน รายงานจากโรงพยาบาลจิตเวชใน จชต. ชี้ว่า ผู้ป่วยจิตเวชจากผลของกระท่อมมีมากกว่าผู้ป่วยจากยาบ้าเสียอีกนี่คือความจริงที่ยังไม่เปิดเผย

ด้านการจับกุมปีที่แล้ว ถึงเเม้ว่าจะจับได้ล๊อตใหญ่มีมูลค่า กว่า 20 ล้านบาท แต่การจับกุมยังไม่เห็นผลดูเหมือนว่า ไม่ลดลงซะด้วยซ้ำ และพอมีร้านค้าเปิดประจำ มักจะมึปัญหาไม่น้อยกับชุมชนหรือผู้ที่อาศัยในละเเวกเดียวกัน เพราะการบังคับใช้กฎหมายยังยากที่จะครอบคลุม มันยังไม่ไปถึงในระดับชุมชนเลย ซึงผลที่ตามมานั้น มักจะเกิดปัญหาอาชญากรรมที่แฝงอยู่รอบตัวเรา ซึ่งคนเสพกระท่อม/ยาเสพติดอื่นจะตามทันที นั่นจะเป็นการกระชากหน้ากากออกให้เห็น

โดยมีข้อเสนอให้ทดลอง

“ปราบจริง120วัน“ 3 เดือนทดลอง โดย บูรณาการทุกหน่วยงาน ตั้งแต่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน”

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม.ยุติธรรมเปิดเผยว่า ได้สรุปสาระสำคัญ และมอบนโยบายการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ โดยเน้นย้ำการทำงานแบบบูรณาการ โปร่งใส และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมในพื้นที่ “ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งพบปัญหารุนแรงและซับซ้อนมากที่สุดในประเทศ จึงกำหนดให้เป็นวาระพิเศษที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพืชกระท่อม น้ำกระท่อม และกัญชา ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และประชาชนในระดับพื้นที่ โดยแผนนี้มีเป้าหมายสำคัญคือ การจัดการกับผู้ค้ารายย่อย ผู้มีอิทธิพล และลดจำนวนผู้เสพซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะน้ำกระท่อม ซึ่งแม้เป็นพืชที่เคยผ่อนคลายทางกฎหมาย แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อสังคมอย่างรุนแรง

ในระยะยาว จำเป็นต้องมีการทบทวนและปรับปรุงกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องกับพืชกระท่อมและกัญชาให้เข้มงวดและรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมการใช้ให้เกิดประโยชน์และไม่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อชุมชน

“การวัดผลของแผนนี้ จะต้องวัดจากความรู้สึกของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ประชาชนต้องรู้สึกปลอดภัย เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และผู้ที่ติดยาเสพติดต้องได้รับการบำบัดฟื้นฟูอย่างจริงจังและทั่วถึง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวทิ้งท้าย

ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน จาก ห้องประชุม ชั้น2 กอ.รมน.ภาค4 สน. (ค่ายสิรินธร) จ.ปัตตานี  ภาพข่าว : ทีม บก.เเอดชายเเดนใต้ / บก.เดอะสตริงเกอร์ทูเดย์

ผลิตงานโดย : สำนักข่าวเเดนใต้ +/ เขียนวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 เวลา 03.16 น.