ปัตตานี- ศูนย์ฟื้นฟูฯ ปัตตานี: “สะพาน” สู่การคืนคนดีกลับสู่สังคม (ศูนย์พักคอยรอกลับบ้าน)
ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดปัตตานี หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า “ศูนย์ศรัทธาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้” ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์พักพิงและสถานที่ดูแลผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้บำบัดก่อนกลับสู่ครอบครัวและชุมชน
“ศูนย์แห่งนี้จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงาน ป.ป.ส. และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่เลือกให้จังหวัดปัตตานีเป็นที่ตั้งเนื่องจากมีความพร้อม สำหรับผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติดจากโรงพยาบาลธัญญารักษ์ หรือมินิธัญญารักษ์ในพื้นที่ เพื่อให้พวกเขาสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ศูนย์ทำหน้าที่เป็นสถานที่พักคอยเพื่อให้ผู้เข้ารับการดูแลได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจอย่างเต็มที่ และมีการเตรียมความพร้อมให้กับครอบครัวและชุมชนในการรับผู้ที่ผ่านการบำบัดกลับคืนสู่สังคม
ปัจจุบัน ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดปัตตานีได้เปิดรับเคสรุ่นแรกจำนวน 50 คน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าศูนย์แห่งนี้ทำหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อม” ที่สำคัญระหว่างกระบวนการบำบัดทางการแพทย์กับชีวิตจริงในสังคม เพื่อให้ผู้ที่เคยติดยาเสพติดสามารถ
“ กลับมาเป็นคนดีและใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวและชุมชนได้อย่างยั่งยืน”
( เจาะลึก )
“หลักสูตร 30 วัน” ศูนย์พักคอย จ.ปัตตานี
โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด ณ ศูนย์พักคอยผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด (CI) ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี มีกิจกรรมหลากหลายตลอดระยะเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2568 เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ผ่านการบำบัดได้กลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ
โครงการนี้มีกิจกรรมหลักแบ่งออกเป็นหลายส่วนเพื่อฟื้นฟูทั้งร่างกาย จิตใจ และทักษะอาชีพ เริ่มจากผู้เข้ารับการอบรมจะเริ่มจากการลงทะเบียน และเข้าร่วมกิจกรรมแรกรับเพื่อประเมินผลโดยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ค่าย รวมถึงทำความเข้าใจกฎและกติกาการอยู่ร่วมกัน
ตารางกิจกรรมประจำวันมุ่งเน้นการปรับตัวให้เข้ากับกิจวัตรประจำวันใหม่ ประกอบด้วย การตื่นนอน การออกกำลังกาย และการเล่นกีฬา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสำคัญด้านจิตใจ เช่น การฝึกจิตสมาธิก่อนนอน การทบทวนจิตตนเอง และกิจกรรมทางเลือกในช่วงเย็น เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการกลับไปใช้ชีวิตในสังคมอย่างยั่งยืน มีการจัดกิจกรรมด้านการเกษตร เช่น การเลี้ยงไก่ไข่และการปลูกผักสวนครัว และการฝึกอาชีพจากศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งใช้เวลาต่อเนื่องหลายวันในหลักสูตร โครงการนี้ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจและการปรับทัศนคติผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเสพติด การเรียนรู้ทักษะการปฏิเสธเพื่อป้องกันการกลับไปเสพซ้ำ และการให้ความรู้จากหน่วยงานภายนอก เช่น การบรรยายเกี่ยวกับ “โลกหลังกำแพง” จากเรือนจำ รวมถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว
ในช่วงท้ายของโครงการจะมีการถอดบทเรียนและจัดพิธีปิดหลักสูตร เพื่อเป็นการสิ้นสุดกระบวนการอบรมและเตรียมความพร้อมสำหรับชีวิตใหม่ต่อไป
ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน
