’บิ๊กไพศาล‘ เเม่ทัพภาคที่ 4 เผยถึงเเผนสร้างสันติสุขชายเเดนใต้ปี 68 เน้นให้ภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วมมากขึ้น ทุกฝ่ายร่วมสร้างสังคมสันติไปด้วยกัน
วันที่ 4 ตุลาคม 2567 เวลา 15.30 น. ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานการประชุมแถลงแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2568 พร้อมด้วย ผู้อำนวยการ สำนักอำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด 4 ส่วนหน้า คณะผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าร่วมรับมอบนโยบาย
พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า พร้อมทำงานขับเคลื่อนไปทุกงาน ทุกหน่วยตามโครงสร้างให้เข้มแข็ง และปฏิบัติงานตามขอบเขตอย่างเต็มประสิทธิภาพ เรื่องที่สำคัญคือเรื่องของการสร้างความเข้าใจในพื้นที่ให้แก่องค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้ได้รับทราบถึงความเป็นจริงในพื้นที่ เมื่อองค์กรต่าง ๆ เหล่านั้นเข้าใจแล้วก็จะได้ช่วยกันสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือในปี 2570 คาดว่าการปฏิบัติราชการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้จะกลับเข้าสู่กลไกปกติของภาครัฐ กำลังหลักต่าง ๆ ที่มาปฏิบัติหน้าที่มีแนวคิดที่จะเสริมสร้างให้เข้มแข็งโดยร่วมกับกรมการปกครองและส่วนของจังหวัด ในส่วนของการป้องกันเหตุการณ์รุนแรงที่ผ่านมา แม้จะมีการลดกำลังลงแต่ในส่วนที่มีอยู่นั้นยังคงปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งทั้งส่วนของทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมถึงอาสาสมัครประจำพื้นที่ต่าง ๆ ต้องมีการบูรณาการร่วมกัน และในวันนี้หลังจากได้รับมอบหน้าที่ก็มีการประชุมแถลงแผนในทันทีเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ เน้นย้ำในส่วนกำลังที่มีอยู่ต้องมีความทุ่มเทในการปฏิบัติงานมากขึ้นทุกส่วน ซึ่งนอกจากเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยแล้วนั้น ส่วนที่สำคัญคืออาสาสมัครประจำพื้นที่และภาคประชาสังคมที่ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการเพื่อแจ้งข่าวสารต่าง ๆ ให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยในพื้นที่ได้หามาตรการการป้องกันการก่อเหตุ ที่จะนำมาสู่สันติสุขชายแดนใต้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ เเม่ทัพภาคที่ 4 ยังเปิดเผยอีกว่า ในเรื่องความปลอดภัยชีวิตเเละทรัพย์สินของประชาชนต้องมาก่อน เรื่องการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ทั้งด่านความมั่นคง หรือ ด่านจุดตรวจอำนวยความสะดวกประชาชน ต้องรักษาความปลอดภัยให้ทุกพื้นที่เป็นสีขาว เเละให้ปฏิบัติตามคำสั่งที่มีอยู่เดิม จะปรับลดหรือเพิ่มขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับเเต่พื้นที่ การตั้งด่านจุดตรวจมีการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนหรือไม่อย่างไร ก็ให้ประเมินเป็นจุดๆไป หากพื้นที่ไหนเห็นสมควรเอาจุดตรวจจุดสกัดออก ถ้ามันเป็นผลดีกับประชาชนในพื้นที่ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้ เเต่สิ่งสำคัญที่สุดต้องดูว่าพื้นที่นั้นมีความปลอดภัย เเละประชาชาชนต้องได้รับความสะดวกมากเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน



