Exclusive !! New Straits Times หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของมาเลเซีย นำเสนอความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่อำเภอตากใบ : นายโอมาร์ และนายอาบู บาการ์ สองอดีตนักโทษกล่าวสารภาพและขออภัยต่อครอบครัวผู้สูญเสียจากผลการกระทำความผิดของพวกเขาในโศกนาฏกรรมตากใบ
โดย ชารีฟา มาซีนะฮ. อับดุลเลาะห์ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11:55 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศมาเลเซีย)
สองอดีตนักโทษได้สารภาพ และขออภัยต่อครอบครัวผู้สูญเสีย จากผลการกระทำความผิดของพวกเขาในโศกนาฏกรรมตากใบ
วันที่ 18 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (ภาคใต้ของประเทศไทย) : อดีตนักโทษสองรายที่ถูกจำคุกจากการมีส่วนเกี่ยวข้องในโศกนาฏกรรมตากใบได้กล่าวสารภาพและ ขออภัยต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต จำนวน 78 ราย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547
สองคนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันต้องการให้เรารู้จักเพียงในนาม “นายโอมาร์” และ “นายอาบู บาการ์” กล่าวว่าการลงโทษที่พวกเขาได้รับนั้นเพียงพอแล้วสำหรับ “ความผิดบาป” ของพวกเขา และตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็กลับเนื้อกลับตัว พวกเขาให้ข้อมูลว่าพวกเขาถูกหลอกใช้จาก “กลุ่มคนบางกลุ่ม” เพื่อให้แจ้งข่าวเท็จหรือข่าวลือ แก่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอตากใบ
นายโอมาร์เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ขณะที่เขาทำงานเป็นชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน “เราสองคนและสมาชิกคนอื่นๆ ของชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ได้รับคำสั่งให้เชิญชวนชาวบ้านให้มารวมตัวกัน ณ ที่ว่าการอำเภอตากใบ เพื่อร่วมกิจกรรมที่จะจัดขึ้นโดยฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ”
“จากนั้นเราก็เชิญชวนผู้คนเพื่อให้มารวมตัวกัน โดยแจ้งว่าจะมีการละศีลอดร่วมกับผู้นำชุมชน ณ ที่ว่าการอำเภอตากใบ”
“ในวันนั้น (เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547) มีชาวบ้านประมาณ 1,500 คน มารวมตัวกัน ณ ที่ว่าการอำเภอตากใบ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีตำรวจภูธรตากใบ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย)” นายโอมาร์กล่าว
นายอาบู บาการ์ วัย 55 ปี พ่อลูกสอง กล่าวว่าเขาถูกจับกุมเมื่อปี พ.ศ. 2551 และได้รับโทษจำคุก 12 ปี ฐานความผิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าว
“เราไม่รู้เลยว่าใครเป็นผู้สั่งการให้เราแจ้งข่าวสารเท็จในลักษณะของข่าวลือแก่ชาวบ้าน และเราไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ เลย เราเพียงแค่ต้องการให้เกิดการชุมนุมประท้วงเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหกคน ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้”
นายโอมาร์กล่าวว่าพวกเขาตระหนักดีว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบอาจจะรู้สึกไม่พอใจต่อพวกเขา ทั้งนี้พวกเขาเองก็ไม่ได้ตำหนิครอบครัวหรือเครือญาติของกลุ่มคนข้างต้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
“เราหวังเพียงแต่ว่าพวกเขาจะให้อภัยพวกเราในสักวันหนึ่ง โทษจำคุกถือเป็นการลงโทษที่พวกเราได้รับผลจากการกระทำความผิดไปแล้ว” ชายวัย 54 ปีซึ่งถูกศาลตัดสินจำคุกหลังถูกจับกุมในปี พ.ศ.2553 กล่าวสารภาพ
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงประมาณ 1,500 คน รวมตัวกันที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบเพื่อประท้วงการควบคุมตัวชายผู้ต้องสงสัย จำนวน 6 คน โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตอบโต้ด้วยการใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำเมื่อฝูงชนเริ่มพยายามบุกรุกเข้าไปในสถานีตำรวจ
ขณะที่ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยิงปืนขึ้นฟ้าและเริ่มสลายการชุมนุมของฝูงชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ผู้ถูกควบคุมตัวส่วนใหญ่ถูกวางทับซ้อนกันบนรถบรรทุก และถูกเคลื่อนย้ายไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี
เมื่อสิ้นสุดการลำเลียงที่ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 5ชั่วโมง ซึ่งต่อมาพบว่ามีผู้ถูกควบคุมตัว 78 ราย เสียชีวิตจากภาวะการขาดอากาศหายใจ ผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวนหลายรายได้ถูกจับกุมในเวลาต่อมา
สืบเนื่องจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว ครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ได้ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ 7 นาย ซึ่งรวมถึงพลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี แม่ทัพภาคที่ 4 ในขณะนั้น โดยพนักงานอัยการมีคำสั่งให้ดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดปัตตานี
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่าศาลได้ประกาศให้คดีนี้สิ้นสุดลง โดยอัตโนมัติเนื่องจากขาดอายุความ ด้วยจำเลยทั้งเจ็ดไม่มารายงานตัวต่อศาลภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลวินิจฉัยว่าคดีได้สิ้นสุดลงเนื่องจากคดีนี้มีอายุความครบ 20 ปี และหมายจับที่ออกไปนั้นจะไม่มีผลบังคับใช้ในทางกฎหมายอีกต่อไป
การพิจารณาคดีในครั้งล่าสุดมีโจทก์จำนวน 48 คน และทนายความ รวมถึงผู้สนับสนุนด้านสิทธิมนุษยชนเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดีภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
ขอขอบคุณเเหล่งข่าว : https://www.nst.com.my/news/nation/2024/11/1134768/two-ex-convicts-seek-forgiveness-over-takbai-tragedy
เเปลเเละเรียบเรียงข่าว :
ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน





